สมาคมอุตสาหกรรมก่อสร้างไทย ในพระบรมราชูปถัมภ์
ที่อยู่ 110 อาคารโอเรียนเต็ล เรสซิเดนซ์ ชั้น 3 ถนนวิทยุ แขวงลุมพินี เขตปทุมวัน กรุงเทพฯ 10330
นางมนพร เจริญศรี รมช.คมนาคม กล่าวว่า ตามนโยบายสร้างรายได้จากการท่องเที่ยวของรัฐบาล กระทรวงคมนาคมโดยกรมเจ้าท่าได้วางแผนพัฒนาท่าเทียบเรือรองรับเรือสำราญขนาดใหญ่ (Cruise Terminal) ครอบคลุมเส้นทางเดินเรือ ฝั่งอ่าวไทยรองรับการเดินเรือในเส้นทางจากท่าเรือต้นทางที่สิงคโปร์ และท่าเรือปลายทางที่ฮ่องกง โดยจอดที่เกาะสมุย จังหวัดสุราษฎร์ธานี และท่าเรือแหลมฉบัง จังหวัดชลบุรี สำหรับฝั่งอันดามันรองรับการเดินเรือในเส้นทางจากท่าเรือต้นทางที่สิงคโปร์ แวะเข้าจอดที่เกาะภูเก็ต และจังหวัดกระบี่ โครงการ Cruise Terminal ที่เกาะสมุย
กรมเจ้าท่าได้ว่าจ้างที่ปรึกษาเพื่อศึกษาความเป็นไปได้เบื้องต้นเกี่ยวกับการออกแบบและคัดเลือกพื้นที่เสร็จแล้ว โดยสามารถรองรับนักท่องเที่ยว 180,000 คนต่อปี รองรับเรือ Cruise 118 ลำต่อปีคาดการณ์รายได้ตลอดระยะเวลาโครงการ 30 ปี มีมูลค่า 8,500 ล้านบาท สัดส่วนของรายได้โครงการแบ่งเป็น รายได้จากท่าเทียบเรือ 91% และรายได้เชิงพาณิชย์ 9%
ขณะนี้อยู่ระหว่างเสนอคณะกรรมการนโยบายการร่วมลงทุนระหว่างรัฐและเอกชน(คณะกรรมการ PPP) จากผลการศึกษาค่าใช้จ่ายของโครงการ 10,430.67 ล้านบาท ผลประโยชน์ของโครงการ ประกอบด้วย การใช้จ่ายของนักท่องเที่ยวการหมุนเวียนของเม็ดเงินในระบบเศรษฐกิจค่าตรวจคนเข้าเมือง, ค่าพิธีศุลกากร และมูลค่าซาก 46,417.23 ล้านบาท อัตราผลตอบแทนทางเศรษฐศาสตร์ (EIRR) 15.57% โดยจะเสนอคณะรัฐมนตรี (ครม.) ให้ความเห็นชอบโครงการได้ภายในเดือนกรกฎาคม - กันยายน 2567 นี้
เบื้องต้นหลังจากนี้จะเป็นการคัดเลือกเอกชนร่วมลงทุน การออกพระราชกฤษฎีกาเวนคืนที่ดินเริ่มต้นการก่อสร้างประมาณเดือนมกราคม 2572 แล้วเสร็จเดือนพฤศจิกายน 2575 และเปิดให้บริการในเดือนธันวาคม 2575
สำหรับโครงการพัฒนาท่าเทียบเรือรองรับเรือสำราญขนาดใหญ่ (Cruise Terminal) อำเภอเกาะสมุย จังหวัดสุราษฎร์ธานี มีพื้นที่รวมประมาณ 47 ไร่ ประกอบด้วย พื้นที่บนชายฝั่ง ได้แก่ อาคารบริการและที่จอดรถ และถนนสาธารณะ 15 ไร่ พื้นที่นอกชายฝั่ง ได้แก่ สะพานขึง อาคารผู้โดยสาร 3 ชั้น และท่าเทียบเรือเฟอร์รี่และเรือยอชต์ 32 ไร่
“ได้กำชับกรมเจ้าท่า เร่งรัดการพัฒนาท่าเทียบเรือเกาะสมุยที่อยู่ระหว่างก่อสร้าง ให้แล้วเสร็จภายในปี 2568 เพื่อเพิ่มศักยภาพของท่าเรือสำหรับรองรับเรือขนส่งนักท่องเที่ยวจากเรือสำราญ และผู้โดยสารจากเรือสำราญ ซึ่งเมื่อการก่อสร้างแล้วเสร็จและเปิดให้บริการจะสามารถรองรับเรือ พร้อมกันได้ครั้งละ 4 ลำ มีอาคารพักคอยรองรับผู้โดยสาร พื้นที่ 1,800 ตารางเมตร รองรับจำนวนนักท่องเที่ยวได้ถึง 1,300 คนต่อวัน”
นายกริชเพชร ชัยช่วย อธิบดีกรมเจ้าท่า กล่าวว่าพื้นที่บริเวณแหลมหินคม ตำบลตลิ่งงาม อำเภอเกาะสมุย จังหวัดสุราษฎร์ธานี มีความเหมาะสมในการพัฒนาท่าเทียบเรือสำราญ ซึ่งกรมฯได้ทำการศึกษาแล้วเสร็จและได้ออกแบบพื้นที่โครงการ ซึ่งมีขนาด 47 ไร่ 3 งาน 6 ตารางวา ประกอบด้วย พื้นที่บนชายฝั่งมีอาคารบริการที่จอดรถ และถนนสาธารณะ พื้นที่นอกฝั่ง มีอาคารผู้โดยสาร 3 ชั้น ท่าเรือยอชต์ ท่าเรือเฟอร์รี่ และสะพานขึง
ทั้งนี้ได้เสนอให้พัฒนาท่าเรือฯ ในรูปแบบร่วมลงทุนระหว่างภาครัฐและภาคเอกชน ซึ่งมีค่าลงทุนและค่าใช้จ่ายตลอดระยะเวลาโครงการ 12,172 ล้านบาท แบ่งเป็นค่าใช้จ่ายในการลงทุนของภาครัฐ 6,538ล้านบาท และภาคเอกชน 5,634 ล้านบาท โดยมีความคุ้มค่าด้านเศรษฐกิจตลอดอายุโครงการถึง 46,000 ล้านบาท ผลประโยชน์ที่ได้จากโครงการฯ คาดสามารถรองรับนักท่องเที่ยว 180,000 คนต่อปี รองรับเรือ Cruise 120 เที่ยวเรือ ต่อปี คาดว่าโครงการจะสร้างรายได้จากนักท่องเที่ยวได้ไม่น้อยกว่าวันละ 5,000 บาท ต่อคน
ปัจจุบันอยู่ในขั้นตอนการเสนอขออนุมัติโครงการจากคณะกรรมการนโยบายรัฐวิสาหกิจ เพื่อทำ PPP โดยนายกรัฐมนตรีได้กำหนดให้เสนอโครงการต่อครม.ภายในปี 2567 คาดว่าจะประกาศเชิญชวนเอกชนยื่นข้อเสนอ และลงนามในสัญญาร่วมทุนได้ภายในปี 2569 ถึง 2570 ใช้เวลาก่อสร้าง 3 ปี
ที่มา แนวหน้า